SEO คือ , การตลาดออนไลน์

วางแผนทำ SEO 

ก่อนที่เราจะ วางแผนทำ SEO ต้องยอมรับและเข้าใจกับมันก่อนนะครับว่า การทำ SEO ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ ใช้ทั้งเวลา และวินัยในตัวเองครับ ซึ่งเรื่องที่เราควรจะรู้อีกอย่างนึงคือ SEO การจัดทำแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ครับ

SEO คือ , การตลาดออนไลน์
SEO คือ , การตลาดออนไลน์
  1. SEO on-page
  2. SEO Off-Page

1. SEO On-page

อันนี้คือการจัดการภายในครับ ปรับแต่งส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ของเราเพื่อให้ส่งผลต่อการจัดอันดับของ Google เอง ซึ่งตัว Google จะมี Bot ในการเข้ามาเก็บข้อมูลในเว็บไซต์ต่าง ๆ นั้นเองครับ ซึ่งตัว Bot จะทำหน้าที่วิเคราะห์ว่า เนื้อหา (Content) ในเว็บไซต์ของเราเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร รวมถึงการพัฒนาเว็บไซต์เบื้องหลังตัว Code อย่าง META Tag รวมทั้งองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างของเว็บไซต์เราครับ

2. SEO Off-Page

คือการใช้องค์ประกอบภายนอกเว็บไซต์ของเราเข้ามาส่งเสริมทำให้ Google รู้จักเราดีขึ้น เมื่อGOOGLE นำ Bot เข้ามาเก็บข้อมูลในเว็บไซต์ของเราเรียบร้อยแล้วว่า เว็บเรามีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องอะไร การทำ Off-Page คือการย้ำว่า website เราเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นจริง ๆ จะช่วยให้ Google เชื่อถือเว็บไซต์เรามากขึ้นครับ ว่าเป็นเว็บไซต์ที่มีประโยชน์ หรือมีคนพูดถึงเว็บไซต์นั้นบ่อย ๆ

การทำ Off-page ที่นิยมกันก็คือ Backlink ครับ Backlink คือการให้เว็บไซต์ต่าง ๆพูดถึงเว็บไซต์เรานั้นเอง เหมือนที่เรานำลิ้งค์ไปแชร์ ใน Facebook ก็ถือเป็นการ backlink อย่างนึงครับ รวมทั้งการแลกลิ้งค์กับเว็บไซต์อื่น ๆ ด้วยครับ

หลักการวิธีทำ
On-Pageปรับแต่ง Keyword ในContent
การปรับแต่ง Meta Tage ในเว็บไซต์การทำเว็บไซต์ให้รวดเร็ว
Off-Pageการโปรโมทเว็บไซต์ลงโฆษณาการทำ Backlink
ใช้ Social media shear

รายละเอียดการทำ SEO คือดังนี้ครับ

  1. วางแผนการทำ SEO วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย
  2. คัดเลือก Keyword ที่มีศักยภาพ และมีคนค้นหาเยอะ ๆ
  3. สร้าง Content ที่เป็นประโยชน์ตามหลักของ SEO
  4. ปรับแต่งองค์ประกอบภายในของเว็บ (On-page)
  5. ปรับแต่งปัจจัยภายนอกของเว็บไซต์ (Off-page)
  6. หมั่นอัพเดทเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ

Trick : 1. การตั้งชื่อเว็บไซต์ มีผลต่อ SEO ไหม? การตั้งนั้นเราไม่ควรคิดเยอะเกินไปหรือคิดน้อยเกินไป

การตั้งชื่อเว็บไซต์ (Domain) เปรียบเหมือนการตั้งชื่อบ้านของเรามันจะอยู่ไปอีกนาน และยิ่งนานเท่าไหร่จะส่งผลดีกับ SEO เพราะ Google จะให้ความเชื่อถือกับมันครับ เทคนิคการตั้งชื่อเว็บไซต์สำหรับคนที่คิดไม่ออกว่าจะตั้งชื่ออะไรดี

  1. ทดสอบด้วยการ list รายชื่อเว็บไซต์ที่เราคิดออก ใส่Post it แปะไว้ข้างฝาที่ทำให้เราเห็นทุกวันครับ ถ้าหลายวันผ่านไปแล้วเรายังชอบอันไหนอยู่แสดงว่าอันนั้นมีแนวโน้มที่จะใช่ชื่อเว็บที่ดีครับ
  2. ชื่อแบรนด์ของคุณ ชื่อแบรนด์ของคุณสำคัญกว่า Keyword ในการตั้งชื่อเว็บไซต์ครับ เพราะจุดหมายปลายทางของเราคือการทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำในหมู่ผู้บริโภค หลังจากปี 2015 Google ให้ความสำคัญกับชื่อเว็บไซต์น้อยลงครับ 
  3. ชื่อควรสั้นและจำง่าย ด้วยการใช้คำ หรือพยางค์ 2-3 พยางค์ครับ เช่น Paypal , facebook , google , lazada , shopee ฯลฯ หากจะใช้คำยาวก็นั้นก็สามารถทำได้ถ้าเป็นศัพท์ที่คนคุ้นเคย
  1. ขั้นตอนการวางแผนการทำ SEO

การทำ SEO เหมือนการบริหารโครงการ(แคมเปญ โปรเจ็ค)นั้นแหละครับ คือต้องมีการวางแผนการดำเนินการตั้งตัวชี้วัด การกำหนดกลุ่มเป้าหมายว่าใครจะมาเป็นผู้เข้าเว็บไซต์ของเราครับ 

การกำหนดเป้าหมายทาง SEO นั้นเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักเหมือนกันครับ การที่จะทำให้คนเข้าเว็บไซต์เราเยอะ ๆ แต่แลกมากับการที่ไม่มียอดขายนั้นก็ไม่มีประโยชน์เหมือนกันครับ (หากเราไม่ใช่ธุรกิจสื่อ)
การทำให้คนเข้าเว็บไซต์เป็นคนเดียวกับลูกค้าของเรานั้นย่อมสำคัญกว่าครับ ดังนั้นคนทำ SEO ต้องเข้าใจในธุรกิจของเราด้วยครับว่า ใครคือลูกค้าของเราจริง ๆ ครับ

การทำธุรกิจจะมีการทำเรื่องของ Customer Segment และ Persona อยู่ครับ หากเราจัดทำแล้วก็สามารถนำตรงนั้นมาเป็นกลุ่มเป้าหมายในการทำ SEO ของเราได้เลยโดยการวิเคราะห์ว่า Digital touchpoint หรือจุดที่เขาจะเข้าเว็บไซต์เราอยู่ตรงไหน จะใช้คำว่าอะไรในการค้นหาสินค้าหรือบริการของเราได้เลยครับ

 โดยการตั้งเป้าหมายการทำ SEO ผมจะใช้ เทคนิคการวัดผลแบบ OKRs(ส่วน OKRs คืออะไรสามารถรออ่านได้ครับ) มาช่วยครับเพื่อให้บรรลุผลได้ง่ายขึ้นครับไปครับ

OKRs CANVAS for SEO

Objectiveติดอันดับ 1 คำว่า “ทัวร์ไปเกาหลี”
Key Result 1 ทำ Content เกี่ยวกับการไปเที่ยวเกาหลี 30 บทความ
Key Result 2ทำให้คนเข้าเว็บไซต์ 100,000 ต่อเดือน
Key Result 3ทำ Backlink Page ให้ได้ 1,000 เว็บไซต์

อันนี้ก็จบไปแล้วนะครับกับการทำวางแผนการทำ SEO ว่าเราจะโฟกัสคำไหนกลุ่มลูกค้าไปที่ใด จะทำContent กี่ Content จะทำBacklink กี่อัน ทั้งหมดนี้จะช่วยทำให้อันดับในเว็บไซต์ของเราดีมากขึ้นครับ

Trick 2 | 3C หลักการในการทำ SEO 

          ไม่ว่าใครจะว่ามีเทคนิคยังไงในการจัดการ SEO นั้นความจริงแล้ว อย่างที่ผมเคยบอกไปในบทความ รู้จัก SEO ในพาร์ทแรกนั้น ก็คือหลักการ 3C ครับ

  1. Credit : ความน่าเชื่อถือ ถ้าเปิดเว็บใหม่ต้องยอมรับความจริงเลยคือ การทำ SEO นั้นยากมาก ๆ ๆ ๆ ครับคุณจะต้องรอคิดวัดระดับความน่าเชื่อถือของ Google ก่อนครับ มันหมายถึงอายุของเว็บไซต์ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของเว็บครับ อย่างต่ำ ๆต้องเปิดให้ได้3-6 เดือนครับ
  2. Content : เนื้อหามีประโยชน์ต่อผู้อ่าน และสอดคล้องกับ Keyword ของเว็บไซต์ครับ 
  3. Crawlability : คือความง่ายในการอ่านค่าของ Google การปรับCode หรือการทำ ให้เว็บโหลดเร็ว ๆ การทำให้เว็บรองรับได้หลาย Device เปิดในมือถือหรือ Laptop ก็ไม่เจ๊งครับ

NORMTHING MARKETING ตัวช่วยเรื่องการตลาด | FACEBOOK | LINE @ |