ไทยได้หรือเสีย หากใครเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ถ้าBIDEN ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ จะทำให้การส่งออกของไทยโตขึ้น 12% !
การเปลี่ยนตัวแค่คนคนเดียว สามารถเปลี่ยนทิศทางของโลกทั้งใบได้
นั้นก็คือการเลือกตั้ง ประธานาธิบดี ของประเทศผู้นำโลกอย่างสหรัฐอเมริกา
โพลก่อนการเลือกตั้ง BBC ได้ให้ BIDEN เหนือกว่า TRUMP ไป 8% หรือ 52% ต่อ 44%
หากผลการเลือกตั้งเป็นไปตามโพลส่วนใหญ่แล้วจริง ๆ จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ?
นโยบายของ BIDEN ดูมีท่าทีที่จะกลับเข้าร่วม Agreement ต่าง ๆ และหนึ่งในข้อตกลงที่สำคัญกับบ้านเราก็คือ CPTPP ที่จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกโดยตรงของประเทศไทย ซึ่งจะสามารถทำให้มีการเติบโตของการส่งออกถึง 12% ในปี 2021 หากไทยตกลงที่จะเข้าร่วม CPTPP (อ้างอิง ศูนย์วิจัยกสิกรฯ)
ตลาดสหรัฐถือเป็นตลาดส่งออกหลักของบ้านเราเพราะครองส่วนแบ่ง 14.7%
โดยปี 2019 ไทยส่งออกไปสหรัฐ 31,348 ล้านเหรียญสหรัฐ
และในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา(ปี2020) มูลค่าส่งออกไปสหรัฐอยู่ที่ 25,358 ล้านเหรียญสหรัฐ
เพิ่มขึ้น 7.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ถือเป็นตลาดส่งออกเพียงไม่กี่แห่งที่สามารถเติบโตสวนทางกับภาพรวมการส่งออกไทย
ที่ยังคงหดตัว -7.33% อีกทั้งสหรัฐยังเป็นประเทศที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากร (GSP) กับไทยถึง 2,672 รายการด้วย
(ซึ่งขณะนี้กำลังเตรียมตัดสิทธิ์ GSP ของไทย เนื่องจากผู้ผลิตของสหรัฐไม่สามารถเข้าถึงตลาดในประเทศไทยได้ ตามนโยบายของทรัมป์)
ซึ่งหากBIDEN ได้เป็นประธานาธิบดี เราก็ยังมีสิทธิ์ในการถูกทบทวนเรื่องนี้ได้ง่ายขึ้น
สหรัฐกลับเข้ากติกาโลก
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวว่า ภาพใหญ่หาก BIDEN ชนะการเลือกตั้ง นโยบายการค้าระหว่างประเทศแบบที่ TRUMP เคยใช้จะลดความร้อนแรงลง สำหรับการส่งออกและนำเข้ากากถั่วเหลืองน่าจะได้รับอานิสงส์มากกว่า
แต่หากผลการเลือกตั้งพลิกจากโพล TRUMP กลับมา จะยิ่งทำให้มีการใช้มาตรการการค้าขั้นรุนแรงมากขึ้น เพราะถือเป็นสมัยสุดท้ายแล้ว ซึ่งไทยก็มีความเสี่ยงที่จะถูกบีบให้ซื้อกากถั่วเหลืองจากสหรัฐ เพื่อไม่ให้ใช้มาตรการทางการค้า
การส่งออก
BIDEN อาจจะทำให้การส่งออกของไทยขยายตัวได้ดีกว่า TRUMP จะส่งผลให้ความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของไทยไปสหรัฐ เช่น อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลแปรรูป โตขึ้น
อาจจะทำให้ในปี 2021 ขยายตัวได้ดีขึ้นถึง 10-12 % รวมมูลค่าประมาณ 36,700-37,300 ล้านดอลลาร์ จากปี 2020
หาก TRUMP กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง อาจจะทำให้การส่งออกของไทยโตต่ำกว่า 5%
(จากศูนย์วิจัยกสิกรฯ)
แต่!! ทาง CIMBT หรือ ศูนย์วิจัย ธนาคาร CIMB THAI มองต่างกัน
“TRUMP ชนะจะ ดีต่อไทยมากกว่า BIDEN”
เพราะว่า นโยบายของ TRUMP จะส่งผลให้จีนย้ายฐานการผลิต ซึ่งก็จะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบในด้านที่ดีต่อไทย เพราะไทยเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) กับจีนที่จะสานต่อไปยังหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรือ RCEP ก็อาจจะส่งผลให้ไทยถูกเป็นหนึ่งในตัวเลือกของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อเป็นฐานการผลิตส่งออกสินค้าไปยังประเทศสหรัฐ ซึ่งมีโอกาสในการสร้างมูลค่าเศรษฐกิจอีกมาก
หาก BIDEN ได้ ไทยมีโอกาสที่จะไม่ได้รับผลดีใด ๆ เลยหากไทยตัดสินใจไม่เข้าร่วม CPTPP แต่ในขณะที่ RCEP ไทยได้เข้าร่วมอยู่แล้วนั้นเอง
ไทยได้หรือเสีย
ซึ่งไม่ว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐนั้นล้วนส่งผลดีและผลเสียให้กับเราทั้งสิ้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นประเด็นเรื่องการส่งออก และเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการส่งออกของไทยคือแหล่งที่มาของรายได้หลักอันหนึ่งของประเทศ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ทำธุรกิจส่งออกโดยตรง แต่คือส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบนั้น
เพราะหากการส่งออกของประเทศโตขึ้นเท่ากับว่าเรามีเงินใช้จับจ่ายในประเทศเพิ่มมากขึ้น ธุรกิจระดับเล็กและระดับกลาง(SME) ก็จะได้รับผลกระทบถัดมาตามลำดับนั้นเอง
ทั้งนี้ภาครัฐมีส่วนสำคัญอย่างมากในการกำหนดกลยุทธ์ของประเทศ ให้ปรับเปลี่ยนไปตามผู้นำของโลก เพราะเราเป็นประเทศที่ยังต้องพึ่งพิงประเทศมหาอำนาจทั้งสองทั้งจีนและสหรัฐอยู่ และที่สำคัญการเติบโต รวมทั้งความน่าดึงดูดในการเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านเราอย่าง เวียดนาม และพม่า ก็ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยจะดีหรือไม่ดีด้วย
ภาครัฐจึงมีความจำเป็นในการเข้าไปดึงดูดนักลงทุน จากประเทศต่าง ๆ ให้เข้ามาลงทุนในบ้านเราให้ได้มากขึ้นและเพิ่มตลาดในการส่งออกมากขึ้นด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม
website : https://www.normthing.com/
Messenger : m.me/normthing
Line : @normthing
Tel : 080-256-4245
NormThing Marketing Agency ใส่ใจเป้าหมายของคุณ
References
– https://www.bbc.com/news/election-us-2020-53657174
– https://www.prachachat.net/world-news/news-546007
– https://www.prachachat.net/finance/news-549311
– https://www.posttoday.com/world/635319
– https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/904602
– https://brandinside.asia/ustr-cut-gsp-thai-817-m-usd-from-reason-cant-access-pork-market-31-oct-2020/