กฎหมายตั๋วเงิน | การศึกษาตราสารเปลี่ยนมือคือการศึกษาลักษณะตั๋วเงิน แต่เดิมทีมันแคบ ปัจจุบันมันมีตราสารที่ไม่ใช่หนี้ด้วย วันนี้เราจะมาปูพื้นฐาน กฎหมายธุรกิจ เพิ่มเติมกัน
ตั๋วเงิน หรือ ตราสารเปลี่ยนมือมี 3 ประเภทตามกฎหมายไทย
- ตัวแลกเงิน
- ตั๋วสัญญาใช้เงิน
- เช็ค
ถ้าตราสารไม่ใช่ตราสาร 3 ประเภทนี้ ก็ไม่สามารถใช้กฎหมายเฉพาะมาใช้บังคับได้ คำว่าตั๋วเงินนั้นเป็นชื่อของตราสาร ที่มีชื่อเรียกกันตามกฎหมาย
ตราสารที่ไม่ใช่ตั๋วเงิน
ตราสารที่ไม่ใช่ตั๋วเงิน เช่น บัตรเงินฝากที่ออกโดยธนาคาร (เวลามีคดีพิพากให้ใช้กฎหมายตั๋วเงินมาโดยอนุโลม)
ตั๋วเงิน มีความพิเศษกว่าสัญญาประเภทอื่น ๆ
ตั๋วเงิน พิเศษอย่างไร? ตั๋วเงินมีลักษณะเป็นตราสารเปลี่ยนมือ มันจึงเกิดองค์ความรู้ที่สามารถแตกแขนงแยกออกได้หลายทาง และมีกฎหมายเฉพาะในตัวมันเอง ตามมาตรา 898
มาตรา 898 อันตั๋วเงินตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายนี้มีสามประเภท ๆหนึ่งคือ ตั๋วแลกเงิน ประเภทหนึ่งคือ ตั๋วสัญญาใช้เงิน ประเภทหนึ่ง คือ เช็ค
เราจะเห็นได้จากมาตรานี้มีการระบุ จำพวกของตั๋วเงินตามกฎหมาย มี 3 ประเภทดั่งที่ผมบอกไปแล้วข้างต้น แล้วแต่ละประเภทก็มีกฎหมายเฉพาะในตัวของมันเองอีกนะครับ ซึ่งก่อนเราจะเริ่มทุกอย่างในเรื่องนี้เราต้องรู้ก่อนว่าตราสาร แต่ละตัวนั้น ต้องวินิจฉัยก่อนว่า เป็นตั๋วเงินหรือเปล่า เป็นตั๋วเงินประเภทอะไร
ตั๋วแลกเงิน มาตรา 908 และ 909
ตั๋วแลกเงินจะมีบุคคล 3 จำพวก คือ
- ผู้สั่งจ่ายตั๋ว หรือผู้ออกตั๋ว กล่าวคือคนที่สั่งให้คนอื่นจ่ายเงิน (ซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ผู้จ่าย)
- ผู้จ่าย คือผู้ที่เป็นลูกหนี้ของผู้สั่งจ่ายด้วย
- ผู้รับเงิน คือคนที่ได้รับเงินสุดท้ายโดยส่วนมากจะเป็นผู้ที่มีการค้าระหว่างผู้สั่งจ่ายตั๋ว
เราจะเห็นว่าเดิมทีคนสั่งจ่ายต้องจ่ายเงินให้ผู้รับเงินด้วยทำการค้าหรือกรณีใด ๆ ก็ตาม แทนที่จะจ่ายเงินเองก็ให้ลูกหนี้ที่ติดเงินอยู่มาจ่าย เสมือนการโอนหนี้โดยอาศัยตัวกลางเนี่ยแหละ
ผู้สั่งจ่ายกับผู้จ่าย ก็สามารถเป็นบุคคลคนเดียวกันได้
มาตรา 908 อันว่าตั๋วแลกเงินนั้น คือหนังสือตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้สั่งจ่าย สั่งบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้จ่าย ให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่บุคคลคนหนึ่ง หรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลคนหนึ่งซึ่งเรียกว่าผู้รับเงิน
มาตรา 909 อันตั๋วแลกเงินนั้น ต้องมีรายการดั่งกล่าวต่อไปนี้ คือ
- (1) คำบอกชื่อว่าเป็นตั๋วแลกเงิน
- (2) คำสั่งอันปราศจากเงื่อนไขให้จ่ายเงินเป็นจำนวนแน่นอน
- (3) ชื่อ หรือยี่ห้อผู้จ่าย
- (4) วันถึงกำหนดใช้เงิน
- (5) สถานที่ใช้เงิน
- (6) ชื่อ หรือยี่ห้อผู้รับเงิน หรือคำจดแจ้งว่าให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ
- (7) วันและสถานที่ออกตั๋วเงิน
- (8) ลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย
ตั๋วสัญญาใช้เงิน มาตรา 982,983
มาตรา 982 อันว่าตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น คือหนังสือตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าผู้ออกตั๋ว ให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้เงินจำนวนหนึ่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง หรือใช้ให้ตามคำสั่งของบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้รับเงิน
มาตรา 983 ตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น ต้องมีรายการดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
- (1) คำบอกชื่อว่าเป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน
- (2) คำมั่นสัญญาอันปราศจากเงื่อนไขว่าจะใช้เงินเป็นจำนวนแน่นอน
- (3) วันถึงกำหนดใช้เงิน
- (4) สถานที่ใช้เงิน
- (5) ชื่อ หรือยี่ห้อของผู้รับเงิน
- (6) วันและสถานที่ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน
- (7) ลายมือชื่อผู้ออกตั๋ว
เช็ค มาตรา 987,988
เช็คจะมีลักษณะคล้ายกับ ตั๋วแลกเงิน มีบุคคล 3 จำพวก คือ
- ผู้สั่งออกเช็ค คือคนที่สั่งให้ธนาคารนจ่ายเงิน (ซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ผู้จ่าย คือต้องไปฝากเงินธนาคารในบัญชีกระแสรายวัน)
- ธนาคาร (ผู้จ่าย) คือผู้ที่เป็นลูกหนี้ของผู้สั่งจ่ายด้วย
- ผู้รับเงิน คือคนที่ได้รับเงินสุดท้ายโดยส่วนมากจะเป็นผู้ที่มีการค้าระหว่างผู้สั่งจ่ายตั๋ว
มาตรา 987 อันว่าเช็คนั้น คือหนังสือตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า ผู้สั่งจ่าย สั่งธนาคารให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งเมื่อทวงถามให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง หรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลอีกคนหนึ่ง อันเรียกว่าผู้รับเงิน
มาตรา 988 อันเช็คนั้น ต้องมีรายการดั่งกล่าวต่อไปนี้ คือ
- (1) คำบอกชื่อว่าเป็นเช็ค
- (2) คำสั่งอันปราศจากเงื่อนไขให้ใช้เงินเป็นจำนวนแน่นอน
- (3) ชื่อ หรือยี่ห้อและสำนักงานของธนาคาร
- (4) ชื่อ หรือยี่ห้อของผู้รับเงิน หรือคำจดแจ้งว่าให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ
- (5) สถานที่ใช้เงิน
- (6) วันและสถานที่ออกเช็ค
- (7) ลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย
หลักสำคัญ กฎหมายตั๋วเงิน อยู่ในฝั่งพานิช
ยอมรับกัน แพร่หลายในทางการค้า
- ก่อให้เกิดหนี้ เกิดความผูกพันธ์คู่สัญญาสมัครใจเกิด จะมีการใช้เงินตามตราสารใบนี้ คนที่ออกตราสารรับผิดชอบ
- เกิดสิทธิเรียกร้อง โอนกันได้ มีมูลค่าการโอนสิทธิตามตราสาร ทำง่ายคือการสลักหลัง สะดวกปลอดภัย รวดเร็ว
- คุ้มครองผู้รับโอนที่สุจริต (อาจมีสิทธิดีกว่าผู้โอนได้)
- สร้างหลัก Secondary Contract หลักนี้กว้างกว่า Privity of Contract กล่าวคือผูกพันธ์บุคคลภายนอก สิทธิตามสัญญาย่อมตกทอดสู่ทายาท
- การโอนสิทธิเรียกร้องเป็นเจตนาฝ่ายเดียว โดยไม่มีกฎหมายบังคับไว้ในกรณีโอนสิทธิเรียกร้องไปให้คนอื่น
- แต่ในกรณีนี้ ฟ้องได้ในกรณีที่ผู้โอนมา เช็คหรือตั๋วแลกเงินนั้นมีความบกพร่อง เพราะผู้โอนหาประโยชน์นั้น ตั๋วเงินถูกใช้เป็นเครื่องมือในการชำระหนี้ หากเช็คเด้ง คนที่ลงลายมือชื่อในตั๋วเงินนั้นต้องรับผิด (เพิ่มพูนลูกหนี้ทุกครั้งไปโดยไม่จำกัดจำนวนถ้าตั๋วมีการสลักหลังหลายทอด)
- กฎหมายสร้างขึ้นจากพื้นฐานความเชื่อถือ ใช้ประโยชน์เพื่อชำระหนี้ที่มีต่อกัน
- ผู้รับเช็คไว้มีหน้าที่ย่อมต้องรักษาเช็คเอาไว้ ใครประมาทย่อมรับภัย (คนแอบเก็บเช็คไปเรียกคืนตามลาภมิควรได้)
- เช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้ (หากไม่ได้มีระบุไว้ว่าชำระทางไหน เจ้าหนี้มีสิทธิไม่รับบางทาง โดยเฉพาะ เช็คส่วนบุคคลได้และถือว่ายังไม่ชำระหนี้ แต่หากในแคชเชียร์เชคบางทีเจ้าหนี้ไม่รับถือเป็นการไม่สุจริต)
- เช็คที่ออกโดยธนาคาร แคชเชียร์เช็ค