ธุรกิจของคุณจะใช้ AI ทำการตลาดให้ปังได้อย่างไร?

04 AI MARKETING BOOM

AI Marketing: ก้าวข้ามการ ‘ลองเล่น’ สู่การวางกลยุทธ์ AI Marketing ที่สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจจริง

ไม่กี่ปีมานี้ เราได้เห็นข่าวที่น่าทึ่งเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่สามารถวาดรูปได้ราวกับศิลปินเอก  เขียนบทกวีที่ลึกซึ้ง  หรือแม้กระทั่งล่าสุดคือการ “แต่งเพลง” พร้อมเนื้อร้องและดนตรีที่สมบูรณ์ได้จากแค่การพิมพ์ข้อความไม่กี่ประโยค ปรากฏการณ์นี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า AI ได้ก้าวข้ามจากการเป็นเพียงเครื่องมือวิเคราะห์ที่ซับซ้อน มาสู่การเป็น “ผู้สร้างสรรค์” ที่ทรงพลัง

คำถามที่น่าสนใจสำหรับคนทำธุรกิจจึงไม่ใช่แค่ “AI ทำอะไรได้บ้าง?” แต่คือ “ถ้า AI สามารถเชี่ยวชาญในสิ่งที่สร้างสรรค์และเป็นมนุษย์ได้อย่างศิลปะ แล้วเราจะนำพลังนั้นมาใช้ขับเคลื่อนการตลาด ซึ่งเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ของธุรกิจได้อย่างไร?” การใช้ AI ทำการตลาดในปี 2025 ไม่ใช่แค่การลองเล่นเครื่องมือใหม่ๆ อีกต่อไป แต่มันคือการยกเครื่องกลยุทธ์ทั้งหมดเพื่อสร้างความได้เปรียบที่คู่แข่งตามไม่ทัน

เมื่อ ‘การตลาดแบบเดาใจ’ ใช้ไม่ได้ผล: ทำไม AI จึงกลายเป็นสมองกลสำคัญของนักการตลาดยุคใหม่?

การทำการตลาดแบบเดิมที่อาศัยสัญชาตญาณหรือการหว่านแหกำลังเดินทางมาถึงทางตันอย่างรวดเร็ว และ AI ได้เข้ามาเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่สำคัญ ด้วยเหตุผลที่นักการตลาดและเจ้าของธุรกิจไม่อาจเพิกเฉยได้

  1. ยุคแห่งการเรียกร้องประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Hyper-Personalization): ลูกค้าในปัจจุบันคาดหวังว่าแบรนด์จะเข้าใจพวกเขาเป็นอย่างดี การส่งข้อความแบบ “One-Size-Fits-All” ไม่ได้ผลอีกต่อไป AI คือเครื่องมือเดียวที่ทำให้การสร้างสรรค์แคมเปญ  โปรโมชัน  หรืออีเมลที่ปรับเปลี่ยนไปตามความสนใจของลูกค้าแต่ละคนในสเกลใหญ่เป็นจริงได้
  2. ทุกบาททุกสตางค์ต้องวัดผลได้: ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย งบประมาณการตลาดถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและทำนายผลลัพธ์ของแคมเปญ  ช่วยจัดสรรงบประมาณไปยังโฆษณาที่ได้ผลดีที่สุดแบบเรียลไทม์ และสร้างรายงานที่ชี้ชัดถึงผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้อย่างแม่นยำ
  3. เอาชนะสึนามิคอนเทนต์ (Content Tsunami): ในแต่ละวันมีคอนเทนต์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมหาศาล การใช้ AI ไม่ได้ช่วยแค่ให้เราผลิตคอนเทนต์ได้เร็วขึ้น แต่ช่วยให้เราผลิต “คอนเทนต์ที่ฉลาดขึ้น” ตรงกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายค้นหา และถูกต้องตามหลัก SEO ซึ่งจะทำให้เราโดดเด่นขึ้นมาจากทะเลข้อมูลข่าวสาร
  4. คู่แข่งของคุณเริ่มวิ่งไปไกลแล้ว: ธุรกิจที่นำ AI มาปรับใช้ในกลยุทธ์การตลาดอย่างจริงจัง เริ่มเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมแล้ว ทั้งในแง่ของต้นทุนการได้มาซึ่งลูกค้า (Customer Acquisition Cost) ที่ต่ำลง และอัตราการปิดการขาย (Conversion Rate) ที่สูงขึ้น ช่องว่างระหว่างนักการตลาดที่ใช้ AI กับที่ไม่ใช้ กำลังถ่างกว้างออกไปเรื่อยๆ

The AI Marketing Funnel: 4 ขั้นตอนประยุกต์ใช้ AI ในการตลาด ตั้งแต่ต้นจนจบ

การจะนำ AI มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต้องมองให้ครบทั้งกระบวนการทางการตลาด ที่ Norm Thing เราได้สรุปแนวทางการประยุกต์ใช้ AI ออกเป็น 4 ขั้นตอนหลักตาม Marketing Funnel

1. ขั้นวิเคราะห์และวางแผน (Analysis & Planning): เข้าใจลูกค้าและตลาดอย่างลึกซึ้ง

ก่อนจะสร้างสรรค์อะไรออกมา AI คือนักวิเคราะห์ที่ทำงานไม่เคยเหนื่อย ใช้ AI ในการ

  • วิเคราะห์เทรนด์ตลาดจากข้อมูลโซเชียลมีเดียและบทความนับล้าน
  • สำรวจกลยุทธ์ของคู่แข่งว่าพวกเขาพูดเรื่องอะไร มีจุดแข็งจุดอ่อนตรงไหน
  • สร้าง Customer Persona หรือกลุ่มลูกค้าจำลองที่สมจริงขึ้นมาจากข้อมูล เพื่อให้ทีมเข้าใจลูกค้าได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

2. ขั้นสร้างสรรค์ (Creation): ผลิตคอนเทนต์ที่ใช่ โดนใจ ในสเกลที่ไม่เคยทำได้

นี่คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยที่สุด แต่ต้องใช้อย่างมีกลยุทธ์ ใช้ Generative AI ในการ:

  • ร่างบทความ  สคริปต์วิดีโอ  คำโฆษณา  และอีเมลที่หลากหลายเวอร์ชันเพื่อนำไปทดสอบ (A/B Testing)
  • สร้างภาพประกอบ  กราฟิก  หรือแม้แต่วิดีโอง่ายๆ สำหรับใช้ในโซเชียลมีเดีย
  • คิดไอเดียแคมเปญการตลาดใหม่ๆ จากการป้อนข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์และเป้าหมายของคุณ

3. ขั้นเข้าถึงและกระตุ้น (Reach & Activation): ส่งสารหาคนที่ใช่ ในเวลาที่ใช่

AI ที่อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์มโฆษณาคือผู้ช่วยจัดสรรงบประมาณที่ดีที่สุด ใช้ AI ในการ:

  • ให้ระบบของ Meta Ads หรือ Google Ads ช่วยหา “กลุ่มเป้าหมาย” ที่มีแนวโน้มจะสนใจสินค้าของคุณมากที่สุดโดยอัตโนมัติ
  • ปรับเปลี่ยนราคาประมูลค่าโฆษณา (Bidding) แบบเรียลไทม์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดภายใต้งบประมาณที่กำหนด
  • ส่งอีเมลหรือโปรโมชันแบบอัตโนมัติที่ถูกกระตุ้น (Triggered) โดยพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละคน เช่น ส่งโค้ดส่วนลดไปให้คนที่ทิ้งสินค้าไว้ในตะกร้า

4. ขั้นวัดผลและปรับปรุง (Measurement & Optimization): เปลี่ยนข้อมูลให้เป็นกลยุทธ์

AI สามารถมองเห็นรูปแบบในข้อมูลที่ตามนุษย์อาจมองข้าม ใช้ AI ในการ:

  • วิเคราะห์ข้อมูลหลังบ้านของแคมเปญเพื่อสรุปว่าคอนเทนต์แบบไหน  ช่องทางใด  หรือช่วงเวลาใดที่ได้ผลดีที่สุด
  • สร้างรายงานสรุปผลที่เข้าใจง่ายพร้อม “คำแนะนำ” สำหรับการทำแคมเปญครั้งต่อไป

กรณีศึกษา (สมมติ): ‘NaturaGlow’ ใช้ AI ปั้นแบรนด์สกินแคร์ให้ปังได้อย่างไร

แบรนด์สกินแคร์ออร์แกนิกน้องใหม่ “NaturaGlow” ได้นำ AI มาใช้ในทุกขั้นตอน:

  1. วิเคราะห์: ใช้ AI วิเคราะห์รีวิวสกินแคร์ในตลาดออนไลน์ พบว่าปัญหาหลักที่ลูกค้าบ่นคือ “เซรั่มเหนียวเหนอะหนะ”
  2. สร้างสรรค์: ใช้ ChatGPT ร่างแคมเปญการตลาดภายใต้แนวคิด “เซรั่มซึมไว สบายผิวเหมือนไม่ได้ทา” และใช้ Midjourney สร้างภาพผลิตภัณฑ์ที่ดูสะอาดตาคู่กับวัตถุดิบจากธรรมชาติ
  3. เข้าถึง: ยิงโฆษณาบน Instagram โดยใช้ฟีเจอร์ Advantage+ Audience ของ Meta เพื่อให้ AI ช่วยหาลูกค้าใหม่ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับลูกค้าเดิมของแบรนด์
  4. วัดผล: หลังแคมเปญ AI ช่วยวิเคราะห์และสรุปว่า “วิดีโอรีวิวสั้นๆ จากผู้ใช้จริงให้ Conversion Rate สูงกว่าภาพนิ่งถึง 40%” ทีมการตลาดจึงนำข้อมูลนี้ไปปรับแผนการผลิตคอนเทนต์ในเดือนถัดไปทันที

AI ไม่ใช่ไม้กายสิทธิ์ แต่คือผู้ช่วยที่ทรงพลังที่สุด: เริ่มต้นวางกลยุทธ์ AI Marketing ของคุณวันนี้

AI จะไม่เข้ามาแทนที่นักการตลาดที่เก่งกาจ แต่จะเข้ามาแทนที่นักการตลาดที่ไม่ยอมปรับตัวและใช้เครื่องมือใหม่ๆ ธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จไม่ใช่ธุรกิจที่ใช้ AI ที่ล้ำที่สุด แต่คือธุรกิจที่ใช้ AI ได้ “ฉลาดที่สุด” เพื่อเข้าใจลูกค้า  สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีขึ้น  และตัดสินใจได้เฉียบคมและรวดเร็วกว่า

การเดินทางไม่ได้เริ่มต้นด้วยการซื้อซอฟต์แวร์ราคาแพง แต่เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนวิธีคิดและตั้งคำถามว่า AI จะเข้ามาช่วยยกระดับการทำงานในแต่ละขั้นตอนของเราได้อย่างไร และที่ Norm Thing เราพร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษาธุรกิจในการช่วยคุณวางกลยุทธ์ เพื่อเปลี่ยนศักยภาพอันน่าทึ่งของ AI ให้กลายเป็นผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้

แหล่งข้อมูลอ้างอิง