เปลี่ยนเรื่องไกลตัวให้เป็น ‘เครื่องมือ’ ลดต้นทุน เพิ่มยอดขาย และสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง
เมื่อไหร่ก็ตามที่คำว่า ESG (Environment, Social, Governance) ถูกพูดถึงในวงสนทนา เจ้าของธุรกิจ SME หลายท่านอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัว ดูซับซ้อน เป็นเรื่องของบริษัทมหาชนที่ต้องทำรายงานหนาเตอะเพื่อเอาใจนักลงทุน แต่ความจริงแล้ว หากเราลองปอกเปลือกคำศัพท์ที่ดูน่าเกรงขามนี้ออกไป เราจะพบว่าแก่นแท้ของมันคือ “หลักการทำธุรกิจที่ดี” ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยให้โลกดีขึ้น แต่ยังเป็น “เครื่องมือทำเงิน” ที่ทรงพลังและจับต้องได้สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอีกด้วย
ความลับก็คือ SME จำนวนมากได้ลงมือทำบางส่วนของ ESG อยู่แล้วในชีวิตประจำวันโดยไม่รู้ตัว แต่ยังไม่ได้เชื่อมโยงจุดเหล่านั้นให้กลายเป็นกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง บทความนี้จะชวนคุณมาถอดรหัส ESG ในภาษาที่ง่ายที่สุด พร้อมเช็คลิสต์ที่นำไปปรับใช้ได้ทันที เพื่อเปลี่ยนเรื่องยากให้กลายเป็นแต้มต่อทางธุรกิจของคุณ
4 สัญญาณเตือนที่ SME จะมองข้าม ESG ไม่ได้อีกต่อไป
ในโลกธุรกิจปี 2025 การทำธุรกิจโดยไม่สนใจ ESG ไม่ใช่แค่การพลาดโอกาส แต่ยังเป็นความเสี่ยงที่น่ากังวล เพราะมีสัญญาณเตือนที่ชัดเจน 4 ข้อปรากฏขึ้นแล้ว
- ลูกค้าของคุณกำลังถามหา: ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y และ Z ยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อสนับสนุนแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคม การมีเรื่องราว ESG ที่ดี คือจุดขายที่ทรงพลังและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้ทันที
- ลูกค้าองค์กรของคุณ (Supply Chain) กำลังบังคับ: หากคุณเป็นผู้ผลิตหรือผู้ให้บริการแก่บริษัทขนาดใหญ่ พวกเขากำลังถูกกดดันให้ต้องมี Supply Chain ที่โปร่งใสและยั่งยืน นั่นหมายความว่าอีกไม่นาน เกณฑ์ด้าน ESG จะกลายเป็น “ใบอนุญาต” ในการทำธุรกิจกับลูกค้ารายใหญ่ของคุณ
- ธนาคารและแหล่งเงินทุนกำลังจับตา: สถาบันการเงินเริ่มใช้เกณฑ์ ESG ในการประเมินความเสี่ยงเพื่ออนุมัติสินเชื่อ ธุรกิจที่บริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมดี ดูแลพนักงานดี และมีความโปร่งใส จะถูกมองว่ามีความเสี่ยงต่ำและมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น
- กำไร ที่ซ่อนอยู่ในการลดต้นทุน: หัวใจของ E (Environment) คือ “ประสิทธิภาพ” การลดการใช้พลังงาน ลดปริมาณขยะ และการใช้น้ำอย่างคุ้มค่า ไม่ใช่แค่การทำเพื่อโลก แต่คือการลดค่าใช้จ่ายในบิลค่าไฟและค่าดำเนินการ ซึ่งหมายถึงกำไรที่เพิ่มขึ้นโดยตรง
ESG ฉบับ SME: แปลงคำศัพท์ยากให้เป็นการลงมือง่ายๆ ที่เริ่มได้ทันที
คุณไม่จำเป็นต้องมีทีมงานขนาดใหญ่หรือใช้งบประมาณมหาศาลเพื่อเริ่มต้น ESG ลองมาดูกันว่าแต่ละตัวอักษรสามารถแปลงเป็นการกระทำอะไรได้บ้าง
E (Environment) = การลดต้นทุนและสร้างจุดขาย
มองหา “จุดรั่วไหล” ของค่าใช้จ่ายในร้านหรือออฟฟิศของคุณ
- เริ่มจากสิ่งเล็กๆ: เปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED ตรวจสอบและซ่อมแซมจุดรั่วซึมของน้ำ จัดการแยกขยะเพื่อนำไปรีไซเคิลหรือขายต่อ
- ขยับไปอีกขั้น: เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ซึ่งสามารถนำมาเป็นจุดขายได้) วางแผนเส้นทางการขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพเพื่อประหยัดน้ำมัน
- ผลลัพธ์: ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม
S (Social) = การดูแล ‘คน’ เพื่อสร้างความภักดี
“คน” ในที่นี้หมายถึงทั้งพนักงานและชุมชนรอบข้าง
- ดูแลคนใน (พนักงาน): สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย ให้ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม มีสวัสดิการตามสมควร และเปิดโอกาสให้พนักงานได้พัฒนาทักษะ
- ดูแลคนนอก (ชุมชน): จ้างงานคนในท้องถิ่น สนับสนุนวัตถุดิบหรือบริการจากร้านค้าในชุมชน หรือมีส่วนร่วมกับกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ของท้องถิ่น
- ผลลัพธ์: ลดอัตราการลาออกของพนักงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน ซึ่งอาจกลายมาเป็นลูกค้าที่ภักดีของคุณ
G (Governance) = การบริหารจัดการที่ดี สร้างความน่าเชื่อถือ
นี่คือรากฐานของธุรกิจที่แข็งแรงและโปร่งใส
- ทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา: มีการกำหนดราคาที่ชัดเจน ไม่หลอกลวงผู้บริโภค และรับผิดชอบต่อสินค้าหรือบริการของตนเอง
- ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับพื้นฐาน: จ่ายภาษีอย่างถูกต้อง มีการทำบัญชีที่ตรวจสอบได้ และปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน
- ผลลัพธ์: สร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า พนักงาน และที่สำคัญคือสถาบันการเงิน ทำให้การดำเนินธุรกิจในระยะยาวราบรื่น
กรณีศึกษา (สมมติ): โรงพิมพ์ ‘อักษรเจริญ’ พลิกธุรกิจด้วย ESG อย่างไร
โรงพิมพ์ SME แห่งหนึ่งตัดสินใจนำหลัก ESG มาปรับใช้ในการดำเนินงาน:
- ด้าน E: เปลี่ยนมาใช้หมึกพิมพ์จากถั่วเหลือง (Soy Ink) และกระดาษรีไซเคิล พร้อมติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา ผลลัพธ์คือ ค่าไฟลดลง 20% และสามารถทำการตลาดในฐานะ “โรงพิมพ์รักษ์โลก” ดึงดูดลูกค้ากลุ่มสตาร์ทอัพและแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้เพิ่มขึ้น
- ด้าน S: จัดอบรมด้านความปลอดภัยในการใช้เครื่องจักรให้พนักงานทุกคน และรับนักศึกษาจากวิทยาลัยอาชีวะในพื้นที่เข้ามาฝึกงาน ผลลัพธ์คือ อุบัติเหตุลดลง พนักงานผูกพันกับองค์กรมากขึ้น และได้บุคลากรใหม่ที่มีคุณภาพ
- ด้าน G: จัดทำระบบบัญชีให้โปร่งใสและตรวจสอบได้ ผลลัพธ์คือ เมื่อยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารเพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่ ก็ได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็ว เพราะธนาคารเชื่อมั่นในระบบการบริหารจัดการที่ดี
เริ่มจากจุดเล็กๆ เพื่อชัยชนะที่ยิ่งใหญ่: ESG คือโอกาส ไม่ใช่อุปสรรค
ESG สำหรับ SME ไม่ใช่การทำตามกระแสโลก แต่คือการกลับมาทบทวนพื้นฐานการทำธุรกิจให้แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพในทุกมิติ มันคือการตัดสินใจที่ชาญฉลาดซึ่งส่งผลดีทั้งต่อโลก ต่อผู้คน และที่สำคัญที่สุดคือต่อ “ผลกำไร” ของคุณเอง
คุณไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบตั้งแต่วันแรก แต่จงเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ที่ทำได้ทันที เพราะทุกการกระทำที่สอดคล้องกับหลัก ESG คือการวางอิฐทีละก้อนเพื่อสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ที่พร้อมจะเติบโตไปในอนาคตได้อย่างมั่นคง