Facebook Video Ads มีความสำคัญกับนักการตลาดและลูกค้าในปัจจุบันเป็นอย่างมากเพราะพฤติกรรมของลูกค้าเริ่มคุ้นชินและชื่นชอบและปรับตัวได้แล้วดูจาก สถิติที่บ่งบอกถึงมันได้คือ มีActive user monthly ดูกว่า 1.25 ล้านวิวในแต่ละเดือน
นอกจากคนที่ดูเยอะมากในแต่ละเดือน Video ยังทำหน้าที่ส่งต่ออารมณ์ของแบรนด์ไปให้ถึงผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีด้วย เป็นการส่งต่อความรู้สึกร่วมให้กับลูกค้าเกี่ยวกับสินค้าและบริการนั้น ๆ
อะไรคือ FACEBOOK VIDEO ADS
Facebook video ads คือช่องทางอีกหนึ่งช่องทางในการทำ โฆษณาไปให้ถึงผู้บริโภค ช่องทางContent ที่ต้องการจะสื่อสารการตลาด โดย Social Media Platform อย่าง เฟซบุ๊ก ได้เปิดให้ลงโฆณากัน
มันจะไปโชว์ตรงส่วนไหนบ้าง ?
- NEWs Feed หน้าฟีตของเฟสบุ๊ค
ในส่วนนี้โฆษณาแบบวีดีโอของเราจะดูกลืนไปกับ คอนเท้นท์อื่น ๆ แบบออรแกรนิค - Streaming Video
ส่วนนี้จะดูเป็นารขายมากขึ้นไปอีกเพราะมันจะไปโผล่บนวีดีโออื่น ๆ ในช่วงกลางของ content ของผู้สร้างคอนเท้นท์อื่น ๆ นั้นเองครับ - Facebook Marketplace
หากเลื่อนลงมาก็จะพบโฆษณาในลักษณะนี้อยู่ในหน้า มาเก็ตเพลตของ Facebook
- Facebook Story
ตรงนี้จะเป็นโฆณาแบบเต็มจอ ในหน้า Story จะโชว์หลังผ่านไป 3 สตอรี่ที่เราดูครับแล้วก็จะกลับไปเป็นแบบออร์แกรนิคคอนเท้นท์ หากเราทำเกิน 15 วินาทีก็อาจจะถูกกดข้ามได้ครับ - Facebook Video Feed
ก็จะอยู่ระหว่างคอนเท้นท์แบบออแกรนิคในหน้า Video Feed ของเฟซบุ๊ค
ซึ่งแต่ละส่วนที่ไปโชว์ก็มีความแตกต่างกันไปของพฤติกรรมคนดู แต่ละช่วงของการตัดสินใจและความเหมาะสมของประเภทของแต่ละวีดีโอด้วยครับ
โครงสร้างของ โฆษณาแบบวีดีโอในเฟซบุ๊ค

- Account Link ชื่อของบัญชีเราจะอยู่ส่วนแรก และแสดงถึงความแตกต่างของการลงโฆษณาและแบบออร์แกรนิคคือเฟซบุ๊คจะบอกเลยว่าได้รับการสนับสนุนครับ
- ข้อความหลัก หรือ Primary Text ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่อธิบายหรือจั่วหัวให้คนสนใจดูวีดีโอของเรา
- Video view ช่องการดูวีดีโอ ในส่วนนี้
- Headline หัวเรื่องของวีดีโอ หากชื่อเกิน40 ตัวอักษรก็อาจจะทำให้หัวเรื่องแสดงได้ไม่เต็มครับ
- Call to Action ว่าจะส่งผู้ที่ดูไปยังส่วนใดและทำกิจกรรมอะไรต่อ
และในส่วนที่วงกลมสีแดงคือจำนวนผู้ที่คอมเม้นท์ หรือมีส่วนร่วมกับโพสอย่างเช่นกดแชร์เป็นต้น
สิ่งที่ เฟซบุ๊ก ต้องการจาก VIDEO ADS ขั้นพื้นฐาน ควรรู้อะไรบ้าง?
- ชนิดของไฟล์ ของการทำ VIDEO ADS นั้นจะเป็นนามสกุล MOV,MP4 หรือ ไฟล์ GIF ก็สามารถทำได้ครับ
รองรับไฟล์เกือบทุกประเภท แต่เราแนะนำให้ใช้การบีบอัดไฟล์แบบ H.264 พิกเซลสี่เหลี่ยมจัตุรัส อัตราเฟรมคงที่ ระบบสแกนแบบ Progressive และการบีบอัดไฟล์เสียง AAC สเตอริโอที่ 128kbps ขึ้นไป - อัตราส่วน จริงๆ ก็รองรับหลายอัตราส่วนVIDEO อย่าง 16:9 ไปจนถึง 9:16 แต่ทาง Facebook แนะนำขนาด 4:5
- ความยาวของวีดีโอ รองรับตั้งแต่ 1 วินาที ไปจนถึง 240 นาทีเลยครับ ซึ่งก็แตกต่างกันไปในแต่ละช่องของFacebook ตามความเหมาะสม อย่างStory ก็จะมีข้อจำกัดอยู่เหมือนกันครับ
- รองรับไฟล์สูงสุดได้ขนาด 4 GB
- ความละเอียดที่รองรับสูงสุดจะอยู่ที่ 1080*1080 Pixel ในทุกช่องทาง ความละเอียดที่แนะนำ: อัพโหลดวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่มีและตรงกับข้อจำกัดด้านขนาดของไฟล์และอัตราส่วน
- เสียงวิดีโอ: มีหรือไม่ก็ได้ แต่แนะนำให้มี
- วิดีโอแนวตั้ง (ที่มีอัตราส่วนกว้างยาวสูงกว่า 2:3) อาจถูกปรับให้มีอัตราส่วน 2:3
- หัวเรื่อง: 25 ตัวอักษร
- คำอธิบายลิงก์: 30 อักขระ
3 เหตุผลที่ทำให้ Facebook Video Ads น่าสนใจในการทำโฆษณาให้นักการตลาด
- คนชอบดูวีดีโอ
พฤติกรรมของผู้ใช้เฟซบุ๊ค ชอบดูวีดีโอมากขึ้นมากและใช้เวลากับมัน จนเจ้าของแพรตฟอร์มอย่าง มาร์ค ซักเกอร์เบิร์กยังบอกว่า “ผมแค่ลองคิด ๆดูเกี่ยวกับมัน ว่าโลกหลังจากนี้ เนื้อหาที่คนจะใช้เวลากับมันก็คือ วีดีโอ” กล่าวในปี 2016 ที่บาเซโลน่า
หลังจาก Social media platform บอกว่าเทรนด์และสนับสนุนการทำ VIDEO ออกมาแบบนี้ ก็หมายความว่าถ้าคุณทำ VIDOE ADS ก็จะยิ่งตอบสนองความต้องการของ Facebook เข้าไปอีกครับ
จากผลสำรวจของเฟซบุ๊คพบว่า ผู้ใช้ 65% ดูวีดีโอผ่าน Facebook ทุกวัน
- วีดีโอทำให้ผู้คนมีส่วนร่วมมากกว่าคอนเท้นท์อื่น ๆ
ผู้ใช้เฟซบุ๊คจะใช้เวลากับคอนเท้นท์ที่เป็นวีดีโอยาวนานกว่าคอนเท้นท์ประเภทอื่น ๆ
โดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 6.13% สูงกว่าคอนเท้นท์แบบอื่น ๆ และสูงกว่าคอนเท้นแบบตัวหนังสือถึง 5 เท่า - Facebook video ads คอนเวอร์ชั่นเรทดีที่สุด
จากผลสำรวจ พบว่า มากกว่า 69% ของนักการตลาดบอกว่า ผลลัพธ์ของการลงโฆษณาแบบวีดีโอ ได้รับการตอบรับดีกว่าการลงโฆษณาแบบรูป
5 เทคนิคที่ทำให้ FACEBOOK VIDEO ADS ส่งผลดีที่สุด
ผู้ใช้เฟซบุ๊คใช้เวลามากกว่า 100 ล้านชั่วโมงในการดูวีดีโอในแต่ละวัน นั้นเป็นบทพิสูจน์แล้วว่า มันเป็นสื่อที่ได้รับความนิยมสูงสุด เท่ากับว่านักการตลาดจะละเลยการลงโฆษณาแบบวีดีโอไปไม่ได้เลย ซึ่งนี้เป็น 5 เทคนิคที่ผมรวบรวมมาให้ที่น่าจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการทำโฆษณาแบบวีดีโอใน เฟซบุ๊ค
- สร้างโฆษณาให้รู้เรื่องหากไม่มีเสียง
Facebook ทำสำรวจว่า 80% ของผู้ใช้จะรู้สึกไม่ค่อยดีที่ดูวีดีโอแบบเล่นอัตนโนมัติแล้วมีดังขึ้นมา ดังนั้นเฟซบุ๊คจึงมอบทางเลือกในการ Auto play แบบปิดเสียง
ดังนั้นนักการตลาดควรให้ความสำคัญตรงนี้คือการใส่ ซับไตเติ้ล หรือทำให้วีดีโอดูรู้เรื่องหากไม่มีเสียง หากคลิปไหนที่มีซัพไตเติ้ล จะสามารถทำให้คนดูคลิปสูงกว่าไม่ดูได้ถึง 12% เลยหละครับ - SET A HOOK รีบปล่อยหมัดเด็ดที่จะทำให้คนดูอยู่กับเรา
ใน3 วินาทีแรกของวีดีโอมีความหมายกับนักการตลาดมากเพราะเป็นตัวตัดสินเลยว่าคนจะดูคลิปเราหรือไม่ และหากทำให้คนดูได้ถึง 10วินาทีขึ้นไป หรือเป็น10วินาทีที่มีความหมาย แบรนด์ของคุณจะถูกจดจำได้มากถึง 74% เลยหละครับ
และต้องสื่อให้ชัดเจนและรวดเร็วว่าเราต้องการจะสื่ออะไรในการโฆษณาแบบวีดีโอให้รู้เรื่องภายใน 5 วินาที - ออกแบบโดยคำนึงถึง Mobile Device เป็นอันดับแรก
ผู้ใช้ดูวีดีโอผ่านมือถือมากกว่าช่องทางอื่นอย่างคอมพิวเตอร์ PC กว่า 1.5 เท่า
ผู้ดูจะรู้สึกว่ามันง่ายกว่าในการดูวีดีโอ เพราะบางทีออกนอกสถานที่ การออกแบบโดยให้การคำนึงถึงโทรศัพท์ จะได้รับการตอบสนองดีกว่าถึง 27% กับการออกแบบโดยไม่ได้นึกถึงโทรศัพท์ก่อนเป็นอันดับแรก
และถ้าเราทำวีดีโอได้สั้น กระชับ และรองรับการเล่นแบบไม่มีเสียง ถือว่าเป็นการทำได้ดีมาถูกทาง
รวมทั้งเรายังสามารถเลือกลงโฆษณาแบบ LEAD ADS เพื่อขอข้อมูลลูกค้าผ่านทาง โทรศัพท์ได้ง่ายอีกด้วย ถ้าเราตั้งแคมเปญแบบนี้ มันจะเด้งเป็นฟอร์มกรอกข้อมูลใน Facebook ขึ้นมาเลย ทำให้ลูกค้าง่ายขึ้นไปอีกในการให้ข้อมูลเรามาครับ หรือจะเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ภายนอกก็ยังสามารถทำได้ครับ
- RE-TARGETING
การรีทาร์เก็ตผู้ที่ดูวีดีโอคืออะไร ? มันคือการทำให้ผู้ที่เคยดูวีดีโอของเราเห็นโฆษณาอื่น ๆ หากเขายังไม่ตัดสินใจซื้อในทันทียังสามารถ ตามไปให้ลูกค้าเห็นได้อีกเพื่อโอกาสในการซื้อในอนาคตครับ
เพราะบางทีลูกค้ายังไม่ถึงช่วงในการตัดสินใจ หากเราออกแบบวีดีโอได้ตาม Customer Journey แต่ละช่วงเวลาของลูกค้า ได้ก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก
ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ของ Google ที่ออกแบบมาให้สั้นกระชับหลังจากดูวีดีโอจบเราก็จะเห็น ADS อีกตัวนึงเพื่อมาตามให้เราซื้อครับ

- เพิ่มการมีส่วนร่วมด้วย Poll ในวีดีโอ
ฟีเจอร์นี้หลายคนยังไม่ค่อยลอง แต่หากเราใช้ได้อย่างมีประโยชน์นอกจากจะมีส่วนร่วมกับวีดีโอแล้วเรายังสามารถถามคำถามที่จะส่งผลดีต่อการออกแบบสินค้า และผลิตภัณฑ์ของเราในอนาคตได้อีกด้วยนะครับ
หลักสำคัญที่ห้ามลืมคือ
เราต้องส่งต่ออารมณ์ให้ถึงผู้ที่ดูคลิปเราให้ได้ครับ เพราะคนเชื่อมต่อกันทางอารมณ์ความรู้สึก เราอาจจะถ่ายทอดเป็นความรู้ How-to ก็จริงแต่เราต้องเปลี่ยนความรู้ เป็นความรู้สึกให้ได้ด้วย มันก็จะยิ่งทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีกครับ
กรณีศึกษา Under Armour: Inspiration
แบรนด์อันเดอร์อาร์โม่ ส่งต่อความรู้สึกที่มีแรงบันดาลใจไปให้กับลูกค้า ผ่านเรื่องราวของ Aisha Praught-Leer นักวิ่งโอลิมปิก
สุดท้าย
อย่าลืมติดตามเพิื่อรับข่าวสารอัพเดท และมี E-BOOK แจกฟรีด้วยนะ
NORMTHING ทำเรื่องใหม่ให้เป็นเรื่องปกติ
รับความรู้ใหม่ ๆ ผ่านไลน์ | @normthing | https://lin.ee/4H8ZjDV
เข้ากลุ่ม | อัพเดทความเปลี่ยนแปลงเรื่องการตลาดและธุรกิจ | NORMTHING
ขอปรึกษาฟรี | https://www.normthing.com/consultation/
#Normthing#SPIRIT#โฆษณาออนไลน์
#onlinemarketing#digitalmarketing#การตลาดดิจิทัล#ที่ปรึกษาธุรกิจ
Add line : @normthing หรือกดลิ้งค์ https://lin.ee/4H8ZjDV เพื่อรับความรู้ใหม่ทุกวัน
