แนวโน้มกฎระเบียบ ESG ที่ธุรกิจควรรู้

กฎ ESG ที่ธุรกิจควรรู้

การจัดการความเสี่ยงในธุรกิจด้วยกลยุทธ์ ESG (Environmental, Social, and Governance) เป็นแนวทางที่ช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืนและสร้างคุณค่าในระยะยาว กฎระเบียบด้าน ESG ในประเทศไทยกำลังได้รับการพัฒนาและส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและตอบสนองต่อความต้องการของสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไมเรื่องนี้ถึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

การนำ ESG มาผนวกในการจัดการความเสี่ยงมีความสำคัญเนื่องจาก

  1. การเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อม: ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ภาวะโลกร้อนและมลพิษ
  2. ปัจจัยทางสังคม: ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน การรับผิดชอบต่อสังคม และการปฏิบัติที่เป็นธรรม
  3. ธรรมาภิบาล: ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการองค์กร เช่น ความโปร่งใส การกำกับดูแล และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

5 แนวโน้มกฎระเบียบ ESG ที่ธุรกิจควรรู้

  1. ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    • กรมควบคุมมลพิษ (ONEP) กำลังผลักดันร่างพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งรวมถึงการประเมินผลกระทบหรือความเสี่ยงของโครงการขนาดใหญ่ การจัดตั้งฐานข้อมูลกลางเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และกลไกทางเศรษฐกิจสำหรับการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคเอกชน การรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นประจำทุกปีจะเป็นภาคบังคับสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  2. การส่งเสริมการปลูกป่าและการจัดการขยะ
    • ประเทศไทยได้ออกกฎหมายและปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับการปลูกป่าและการจัดการขยะ โดยใช้หลักการ “ผู้ก่อมลพิษต้องจ่าย” เพื่อส่งเสริมการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กฎหมายใหม่ๆ รวมถึงการแบ่งปันเครดิตคาร์บอนในโครงการปลูกป่าระหว่างภาครัฐและเอกชน และการจัดการขยะตามหลักการดังกล่าว
  3. การส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
    • รัฐบาลไทยได้อนุมัติมาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมการใช้และการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศ โดยมีเป้าหมายให้ยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมีสัดส่วนถึง 30% ของการผลิตรถยนต์ในประเทศภายในปี 2030 รัฐบาลได้อนุมัติแพคเกจสิ่งจูงใจ เช่น การยกเว้นและลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตสำหรับ EV รวมถึงการสนับสนุนเงินอุดหนุนสำหรับบริษัทที่สามารถเริ่มการผลิตในประเทศในปี 2024 หรือ 2025
  4. กรอบข้อมูล ESG ของ ก.ล.ต.
    • สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกกรอบข้อมูล ESG ภายใต้แผนงาน 3 ปีของ AIMC และมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักการในการควบคุมกองทุนการลงทุนที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG ตามมาตรฐานสากล เช่น Task Force on Climate-Related Financial Disclosures (TCFD) และ International Sustainability Standards Board (ISSB)
  5. การปฏิบัติการด้านสิทธิมนุษยชน
    • การดำเนินการเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย ESG โดยบริษัทต้องระบุและจัดการผลกระทบของกิจกรรมที่มีต่อสิทธิมนุษยชน เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยังส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในรายงานประจำปีของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

กรณีศึกษาที่น่าสนใจ

ตัวอย่างเช่น บริษัท E ที่ได้ใช้กลยุทธ์ ESG ในการจัดการความเสี่ยง เช่น การประเมินและปรับปรุงการดำเนินงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล การตั้งเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการสร้างความร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่น ผลลัพธ์ที่ได้คือการลดต้นทุนการดำเนินงาน เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในตลาด

สรุป

การจัดการความเสี่ยงด้วยกลยุทธ์ ESG ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล แต่ยังสร้างโอกาสในการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนและเสริมสร้างความเชื่อมั่นในตลาด การที่ธุรกิจสามารถเข้าใจและปรับตัวตามกฎระเบียบเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งนี้เพื่อให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างยั่งยืนและเติบโตในระยะยาว

References:

  1. Baker McKenzie: ESG Trends in Thailand
  2. Law.asia: Thailand’s ESG Regulations
  3. Chambers and Partners: ESG 2023 – Thailand