สิทธิแรงงาน ที่นายจ้างทุกคนต้องรู้

สิทธิแรงงาน นายจ้างควรรู้

สิทธิแรงงาน คือสิทธิที่กฎหมายกำหนดให้ลูกจ้างได้รับความคุ้มครองจากนายจ้าง เช่น เวลาทำงาน วันหยุด ค่าตอบแทน และสวัสดิการต่าง ๆ รวมถึงสิทธิในการปฏิเสธการทำงานนอกเวลาที่ตกลงกันไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการทำงานและสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและงานของลูกจ้าง

โดยกฎหมายที่ใช้อ้างประกอบบทความนี้ โดยหลักมาจาก พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พศ. 2541

เวลาทำงานปกติ

เวลาทำงานปกติ ตามกฎหมายแรงงาน ลูกจ้างสามารถทำงานปกติได้ไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน หรือไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ นายจ้างและลูกจ้างสามารถตกลงกันได้ตามความเหมาะสม สำหรับงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัย เช่น งานที่ต้องทำใต้ดิน ใต้น้ำ ในที่อับอากาศ หรือเกี่ยวข้องกับกัมมันตภาพรังสี งานประเภทนี้จะต้องจำกัดเวลาทำงานให้ไม่เกิน 7 ชั่วโมงต่อวัน และไม่เกิน 42 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

เวลาพัก

เวลาพัก ระหว่างเวลาทำงานปกติ ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเวลาพักไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน หลังจากทำงานมาแล้วไม่เกิน 5 ชั่วโมงติดต่อกัน สำหรับบางธุรกิจ เช่น ร้านอาหารหรือร้านเครื่องดื่มที่เปิดจำหน่ายเป็นช่วง ๆ อาจจัดเวลาพักเกิน 2 ชั่วโมงได้

ก่อนทำงานล่วงเวลา หากลูกจ้างต้องทำงานต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง นายจ้างต้องจัดเวลาพักไม่น้อยกว่า 20 นาที

วันหยุด

  • วันหยุดประจำสัปดาห์ ลูกจ้างมีสิทธิหยุดไม่น้อยกว่า 1 วันต่อสัปดาห์ และต้องมีระยะห่างกันไม่เกิน 6 วัน
  • วันหยุดตามประเพณี ไม่น้อยกว่า 13 วันต่อปี รวมวันแรงงานแห่งชาติ หากวันหยุดตรงกับวันหยุดประจำสัปดาห์ ลูกจ้างมีสิทธิหยุดชดเชย
  • วันหยุดพักผ่อนประจำปี ลูกจ้างที่ทำงานครบ 1 ปี มีสิทธิได้รับวันหยุดไม่น้อยกว่า 6 วันทำงานต่อปี และสามารถสะสมไปใช้ในปีถัดไปได้

การทำงานล่วงเวลาและค่าตอบแทน

ลูกจ้างสามารถทำงานล่วงเวลาได้โดยได้รับความยินยอมจากลูกจ้างเป็นคราว ๆ ไป อย่างไรก็ตาม ในบางธุรกิจ เช่น โรงแรม สถานมหรสพ ร้านขายอาหาร และสถานพยาบาล นายจ้างสามารถให้ลูกจ้างทำงานในวันหยุดได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมล่วงหน้า

ชั่วโมงการทำงานล่วงเวลาและการทำงานในวันหยุด รวมกันต้องไม่เกิน 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

ค่าตอบแทนในการทำงาน

  • ค่าจ้าง จ่ายเป็นเงินและต้องไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
  • ค่าจ้างในวันหยุด ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าจ้างสำหรับวันหยุด ยกเว้นลูกจ้างรายวัน รายชั่วโมง หรือรายผลงาน
  • ค่าล่วงเวลา หากทำงานเกินเวลาปกติ นายจ้างต้องจ่ายไม่น้อยกว่า 1.5 เท่าของค่าจ้างต่อชั่วโมง และหากเป็นวันหยุดต้องจ่ายไม่น้อยกว่า 3 เท่า
  • ค่าชดเชย ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด มีสิทธิได้รับค่าชดเชยตามระยะเวลาการทำงาน
  • กรณีไม่ได้รับค่าชดเชยต้องทำผิดตาม พรบ. คุ้มครองแรงงานมาตรา 119
มาตรา ๑๑๙ นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างซึ่งเลิกจ้างในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้

(๑) ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง
(๒) จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
(๓) ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
(๔) ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระเบียบ หรือคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว เว้นแต่กรณีที่ร้ายแรง นายจ้างไม่จำเป็นต้องตักเตือน

หนังสือเตือนให้มีผลบังคับได้ไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่ลูกจ้างได้กระทำผิด
(๕) ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลาสามวันทำงานติดต่อกันไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตามโดยไม่มีเหตุอันสมควร
(๖) ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
ในกรณี (๖) ถ้าเป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษต้องเป็นกรณีที่เป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหาย

การเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยตามวรรคหนึ่ง ถ้านายจ้างไม่ได้ระบุข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุที่เลิกจ้างไว้ในหนังสือบอกเลิกสัญญาจ้างหรือไม่ได้แจ้งเหตุที่เลิกจ้างให้ลูกจ้างทราบในขณะที่เลิกจ้างนายจ้างจะยกเหตุนั้นขึ้นอ้างในภายหลังไม่ได้

สิทธิในการลาตามกฎหมายแรงงาน

  • วันลาป่วย ลาได้ตามจำนวนวันที่ป่วยจริง หากลาเกิน 3 วันทำงานต้องมีใบรับรองแพทย์
  • วันลากิจ ไม่ต่ำกว่า 3 วัน และหากลาเพื่อธุระจำเป็นเกินกว่า 3 วันนั้น สามารถทำได้ให้ทำตามข้อบังคับของบริษัท
  • วันลาทำหมัน สามารถลาได้ตามเวลาที่แพทย์กำหนดและมีสิทธิได้รับค่าจ้าง
  • วันลาคลอดบุตร ลูกจ้างหญิงสามารถลาได้สูงสุด 90 วันต่อการตั้งครรภ์ รวมวันหยุด
  • วันลาฝึกอบรม มีสิทธิลาเพื่ออบรมพัฒนาความรู้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยต้องแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน

การทำงานจากที่บ้าน (Work from Home)

ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 23/1 นายจ้างและลูกจ้างสามารถตกลงกันให้ลูกจ้างนำงานไปทำที่บ้านหรือที่พักอาศัย หรือทำงานผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศจากสถานที่ใด ๆ ได้ โดยมีเงื่อนไขดังนี้:

  • ต้องมีสัญญาจ้างและปรับเปลี่ยนเวลาให้เหมาะสมกับการ work from home ด้วย
  • ข้อตกลงต้องทำเป็นหนังสือหรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าถึงได้
  • รายละเอียดข้อตกลงอาจรวมถึงระยะเวลาการทำงาน เวลาพัก การทำงานล่วงเวลา ขอบเขตหน้าที่ และภาระหน้าที่เกี่ยวกับอุปกรณ์การทำงาน

เมื่อลูกจ้างสิ้นสุดเวลาทำงานปกติ ลูกจ้างมีสิทธิที่จะปฏิเสธการติดต่อจากนายจ้าง หัวหน้างาน หรือผู้ควบคุมงาน เว้นแต่ลูกจ้างได้ให้ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า

ลูกจ้างที่ทำงานจากที่บ้าน หรือทำงานผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศในสถานที่อื่น ๆ มีสิทธิเทียบเท่ากับลูกจ้างที่ทำงานในสถานประกอบการของนายจ้าง

การปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน สิทธิแรงงาน

นายจ้างและลูกจ้างควรปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานเพื่อรักษาสิทธิและสวัสดิการที่เหมาะสม การเข้าใจเกี่ยวกับเวลาทำงาน วันหยุด และค่าตอบแทน จะช่วยให้เกิดความเป็นธรรมและประสิทธิภาพในการทำงาน

ชั่วโมงการทำงานล่วงเวลาและการทำงานในวันหยุด รวมกันต้องไม่เกิน 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

วันลา

  • วันลาป่วย ลาได้ตามจำนวนวันที่ป่วยจริง หากลาเกิน 3 วันทำงานต้องมีใบรับรองแพทย์
  • วันลากิจ ลาเพื่อธุระจำเป็นได้ตามข้อบังคับของบริษัท
  • วันลาทำหมัน สามารถลาได้ตามเวลาที่แพทย์กำหนดและมีสิทธิได้รับค่าจ้าง
  • วันลาคลอดบุตร ลูกจ้างหญิงสามารถลาได้สูงสุด 90 วันต่อการตั้งครรภ์ รวมวันหยุด
  • วันลาฝึกอบรม มีสิทธิลาเพื่ออบรมพัฒนาความรู้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยต้องแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน

ค่าตอบแทนในการทำงาน

  • ค่าจ้าง จ่ายเป็นเงินและต้องไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
  • ค่าจ้างในวันหยุด ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าจ้างสำหรับวันหยุด ยกเว้นลูกจ้างรายวัน รายชั่วโมง หรือรายผลงาน
  • ค่าล่วงเวลา หากทำงานเกินเวลาปกติ นายจ้างต้องจ่ายไม่น้อยกว่า 1.5 เท่าของค่าจ้างต่อชั่วโมง และหากเป็นวันหยุดต้องจ่ายไม่น้อยกว่า 3 เท่า
  • ค่าชดเชย ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด มีสิทธิได้รับค่าชดเชยตามระยะเวลาการทำงาน

การปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน

นายจ้างและลูกจ้างควรปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานเพื่อรักษาสิทธิและสวัสดิการที่เหมาะสม การเข้าใจเกี่ยวกับเวลาทำงาน วันหยุด และค่าตอบแทน จะช่วยให้เกิดความเป็นธรรมและประสิทธิภาพในการทำงาน

หากมีข้อปรึกษาเกี่ยวกับกฎหมายธุรกิจ หรือ ต้องการให้ร่างสัญญาจ้างแรงงาน สามารถติดต่อไลน์ @Normthing เพื่อให้เราดูแลในแง่กฎหมายต่อได้ครับ