PR เป็นกลยุทธ์การสื่อสารที่มุ่งเน้นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ stakeholders
การทำ PR (Public Relations) คือกระบวนการหรือกิจกรรมที่มุ่งเสนอข้อมูลหรือข่าวสารเชิงบวกเกี่ยวกับองค์กร สินค้า บริการ หรือบุคคลในองค์กรโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจ ความรู้สึก และความไว้วางใจจากประชาสัมพันธ์ หรือกลุ่มเป้าหมาย โดยไม่ต้องเป็นการโฆษณาโดยตรง แต่เน้นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและการสื่อสารที่เชื่อถือได้ในสื่อมวลชน การทำ PR สามารถทำได้ผ่านหลายช่องทาง เช่นการเปิดเผยข้อมูลผ่านสื่อมวลชน การจัดงานสัมมนา การเขียนบทความในสื่อต่างๆ หรือการให้ข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์ เป็นต้น
PR – Public Relations
วัตถุประสงค์หลักของการทำ PR มักจะเน้นไปที่การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเชื่อถือได้ขององค์กร การสนับสนุนการขายสินค้าหรือบริการ การสร้างความเข้าใจและการสนับสนุนจากสังคม การสร้างความเชื่อมั่นจากลูกค้า หรือการสร้างความเข้าใจและความไว้วางใจจากเขามหาชน
นอกจากนี้ การทำ PR ยังมุ่งเน้นไปที่การสร้างความตระหนักและความเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นหรือปัญหาที่องค์กรต้องการสื่อสารหรือแก้ไขด้วยวิธีการที่เหมาะสมในทางองค์กรและทางสังคม ในสังคมวิชาการ การทำ PR ถือเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในองค์กรหรือสิ่งของในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการทำ PR จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร สินค้า บริการ หรือบุคคล และเพิ่มความรู้สึกที่ดีและความไว้วางใจจากสังคมและประชาสัมพันธ์ในฐานะผู้ประกอบการหรือที่มาของผลิตภัณฑ์นั้นๆ
เทคนิคการทำ PR เพิ่มภาพลักษณ์ให้แบรนด์
1. กำหนดเป้าหมาย
- กำหนดว่าต้องการสร้างภาพลักษณ์แบบไหน
- กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเข้าถึง
การกำหนดเป้าหมายในการทำ PR มีความสำคัญมาก เนื่องจากเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้กิจกรรม PR เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระเบียบ
การกำหนดภาพลักษณ์: ก่อนที่จะกำหนดเป้าหมายเกี่ยวกับภาพลักษณ์ที่ต้องการสร้าง คุณควรทำการวิเคราะห์ว่าภาพลักษณ์ปัจจุบันขององค์กรหรือสินค้าบริการนั้นเป็นอย่างไร และต้องการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ขององค์กรหรือสินค้าบริการในระยะเวลาใด ยกตัวอย่างเช่น การกำหนดเป้าหมายที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรเป็นองค์กรที่มีความเชื่อมั่น น่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับในวงกว้างของสังคม หรือการกำหนดเป้าหมายที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าเป็นสินค้าที่มีคุณค่าและคุณภาพสูง ให้คนได้รับรู้ถึงคุณค่าและประโยชน์ที่สินค้านั้นๆนำเสนอ
การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย: หลังจากกำหนดภาพลักษณ์ที่ต้องการสร้างแล้ว คุณต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมกับภาพลักษณ์นั้น ๆ เพื่อให้กิจกรรม PR เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม คุณอาจกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นนักลงทุน นักวิจัย หรือนักธุรกิจที่มีความสนใจในเรื่องนวัตกรรม ส่วนหากต้องการสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าเป็นสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คุณอาจกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคที่มีความสนใจในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
โดยการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนเหล่านี้จะช่วยให้กิจกรรม PR มีการวางแผนและการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถวัดผลได้ด้วยความสำเร็จที่ชัดเจนและเชื่อถือได้
2. เลือกช่องทางการสื่อสาร
- เลือกช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
- เลือกช่องทางที่เหมาะกับประเภทของเนื้อหา
การเลือกช่องทางการสื่อสารเพื่อการทำ PR ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมของช่องทางทั้งในเรื่องของกลุ่มเป้าหมายและเนื้อหาของข้อมูลด้วย ดังนั้นขั้นตอนการเลือกช่องทางการสื่อสารสำหรับการทำ PR สามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนดังนี้:
วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย: ให้ทำการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียด เช่น อายุ เพศ วัฒนธรรม พฤติกรรมการใช้ชีวิต เป้าหมายทางธุรกิจ เป้าหมายทางการตลาด เป้าหมายทางการอาชีพ ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้คุณเลือกช่องทางที่เหมาะสมและที่มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด
วิเคราะห์เนื้อหา: ต่อมาให้ทำการวิเคราะห์เนื้อหาที่ต้องการสื่อสารให้กับกลุ่มเป้าหมาย อย่างไรก็ตามควรให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่มีคุณค่าและน่าสนใจต่อกลุ่มเป้าหมาย
เลือกช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสม: หลังจากนั้นให้ทำการเลือกช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและเนื้อหาที่ต้องการสื่อสาร ยกตัวอย่างเช่น:
หากเนื้อหาของคุณมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายที่ใช้สื่อสารออนไลน์อยู่บ่อยๆ คุณสามารถเลือกใช้ช่องทางเช่นเว็บไซต์ บล็อก โซเชียลมีเดีย เพื่อสื่อสารข้อมูล
หากเนื้อหาของคุณเป็นข้อมูลที่มีความเชื่อถือและต้องการเป้าหมายที่มีความรู้ คุณอาจพิจารณาที่จะใช้งานหรือจัดกิจกรรมสัมมนา เวิร์กช็อป หรือการสร้างเอกสารข้อมูลในรูปแบบของงานวิจัย เพื่อสื่อสารข้อมูล
วิเคราะห์ผลการสื่อสาร: หลังจากที่ได้ทำการสื่อสารผ่านช่องทางที่เลือกแล้ว ควรทำการวิเคราะห์ผลการสื่อสารเพื่อปรับปรุงและปรับเปลี่ยนเนื้อหาหรือช่องทางที่ใช้สื่อสารต่อไป
การเลือกช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสมเพื่อการทำ PR จะช่วยให้กิจกรรม PR เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถสื่อสารเนื้อหาให้ถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้
3. สร้าง Content ที่น่าสนใจ
- Content นั้นต้องตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย
- Content นั้นต้องสื่อสาร Brand Message ได้อย่างชัดเจน
- Content นั้นต้องน่าเชื่อถือ
การสร้างเนื้อหา (Content) ที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มเป้าหมายในการทำ PR ควรมีคุณสมบัติดังนี้
- ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย: เนื้อหาควรจะเป็นเนื้อหาที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับความสนใจและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยการทำวิเคราะห์เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายอาจจะช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการและความสนใจของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น
- สื่อสาร Brand Message ได้อย่างชัดเจน: เนื้อหาควรสื่อสาร Brand Message หรือข้อความที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์หรือภาพลักษณ์ขององค์กรอย่างชัดเจน โดยการที่เนื้อหาสามารถนำเสนอและสื่อสารคุณค่าและพิเศษของแบรนด์อย่างชัดเจนจะช่วยเสริมความไว้วางใจและความเชื่อถือของกลุ่มเป้าหมายในแบรนด์ได้มากขึ้น
- น่าเชื่อถือ: เนื้อหาควรจะเป็นข้อมูลที่มีคุณค่าและเชื่อถือได้ โดยการที่เนื้อหามีความน่าเชื่อถือจะช่วยเสริมความเชื่อมั่นและความเชื่อถือในองค์กรหรือแบรนด์ของคุณได้
ตัวอย่างของเนื้อหาที่สามารถสร้างขึ้นได้ เพื่อใช้ในกิจกรรม PR ได้แก่
- บทความเกี่ยวกับความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่กลุ่มเป้าหมาย เช่น คำแนะนำ ข่าวสาร หรือเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับวงการหรือกลุ่มเป้าหมาย
- การเผยแพร่ข้อมูลหรือสถิติที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการขององค์กร เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือ
- การสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมหรือความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เช่น วิดีโอ ภาพถ่าย หรือโพสต์ในโซเชียลมีเดีย
การสร้างเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เชื่อถือได้ และสื่อสาร Brand Message ได้อย่างชัดเจนจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างความรู้สึกดีและความน่าเชื่อถือจากกลุ่มเป้าหมายในองค์กรหรือแบรนด์ของคุณได้ในที่สุด
4. สร้างความสัมพันธ์กับสื่อ
- สื่อสารกับสื่ออย่างสม่ำเสมอ
- เสนอเนื้อหาที่น่าสนใจ
- สนับสนุนงานของสื่อ
การสร้างความสัมพันธ์กับสื่อ (Media Relations) เป็นขั้นตอนสำคัญในกิจกรรม PR เพื่อให้สื่อมวลชนเข้าใจและรายงานข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรหรือสินค้าบริการของคุณอย่างเหมาะสม ดังนั้น คุณควรดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้:
- สื่อสารกับสื่ออย่างสม่ำเสมอ: สื่อสารกับสื่ออย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากมันช่วยให้คุณสามารถสร้างความรู้สึกดีและความไว้วางใจจากสื่อมวลชนได้ คุณควรสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลที่มีอิทธิพลในสื่อและควรสื่อสารอย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ
- เสนอเนื้อหาที่น่าสนใจ: เพื่อให้สื่อสนใจในการรายงานเกี่ยวกับองค์กรหรือสินค้าบริการของคุณ คุณควรเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจและมีคุณค่า โดยคุณสามารถเสนอเนื้อหาให้เป็นข่าวสาร บทความ หรือการจัดงานพิเศษที่สื่อสนใจ
- สนับสนุนงานของสื่อ: คุณควรสนับสนุนงานของสื่อและให้ความร่วมมือในการรายงานข้อมูล โดยเชิญชวนสื่อมาเข้าร่วมงานของคุณ หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อสื่อต้องการ
การสร้างความสัมพันธ์กับสื่อที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรหรือสินค้าบริการของคุณในสื่อมวลชนได้มากขึ้น ซึ่งจะมีผลในการสร้างความรู้สึกดีและความน่าเชื่อถือให้แก่องค์กรหรือแบรนด์ของคุณในสังคมและตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
5. ร่วมกิจกรรม CSR
- ร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
- สนับสนุนโครงการพัฒนา
- บริจาคเงินหรือสิ่งของ
การร่วมกิจกรรม CSR (Corporate Social Responsibility) เป็นกิจกรรมที่สำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรในสังคม โดยให้ความสำคัญกับการทำงานเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ขั้นตอนที่คุณสามารถดำเนินการได้เพื่อร่วมกิจกรรม CSR ได้แก่:
- ร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม: คุณสามารถร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เช่น การทำความสะอาดสิ่งแวดล้อม การสนับสนุนโครงการศึกษา การสนับสนุนโรงเรียนหรือโรงพยาบาลในพื้นที่ หรือการเข้าร่วมกิจกรรมสังคมที่มุ่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน
- สนับสนุนโครงการพัฒนา: คุณสามารถสนับสนุนโครงการหรือโครงการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา สุขภาพ สิทธิมนุษยชน หรือพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ เช่น การสนับสนุนโครงการฝึกอาชีพ การสนับสนุนโครงการเกษตรกรรมที่ยั่งยืน หรือการสนับสนุนโครงการน้ำสะอาดและสุขอนามัย
- บริจาคเงินหรือสิ่งของ: คุณสามารถทำการบริจาคเงินหรือสิ่งของเพื่อสนับสนุนโครงการหรือกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสังคมได้ เช่น การบริจาคเงินสนับสนุนโครงการช่วยเหลือผู้ป่วย การบริจาคเงินสนับสนุนการศึกษา หรือการบริจาคสิ่งของสำคัญเช่น เสื้อผ้า อาหาร หรือวัสดุการเรียนรู้
การร่วมกิจกรรม CSR จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรของคุณในสังคม และเสริมสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากลูกค้าและสังคมทั้งหมดในที่สุด
ตัวอย่างเทคนิคการทำ PR
นี่คือตัวอย่างเทคนิคการทำ PR ที่ใช้ในกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความรู้สึกและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสาธารณะ
- การจัดแถลงข่าวเปิดตัวสินค้าใหม่: การจัดแถลงข่าวเปิดตัวสินค้าใหม่เป็นเทคนิคที่มักจะใช้ในการเปิดตัวสินค้าหรือบริการใหม่ โดยการเรียกสื่อมวลชนและบรรณาธิการมาเข้าร่วมงานและรายงานข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการนั้นในสื่อ
- การจัดงานอีเวนต์เชิญสื่อมวลชน: การจัดงานอีเวนต์เชิญสื่อมวลชนเป็นเทคนิคที่ใช้ในการเพิ่มความรู้สึกและความสนใจจากสื่อมวลชนต่อกิจกรรมหรือสินค้าขององค์กร โดยให้สื่อมวลชนเข้าร่วมงานและรายงานข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมนั้นในสื่อ
- การเขียนบทความลงในสื่อต่างๆ: การเขียนบทความลงในสื่อต่างๆ เป็นเทคนิคที่ใช้ในการสร้างความรู้สึกและความน่าสนใจต่อสินค้าหรือบริการขององค์กร โดยการเขียนบทความที่น่าสนใจและมีคุณค่าสำหรับผู้อ่าน และส่งมอบให้กับสื่อต่างๆ เพื่อการโพสต์หรือการเผยแพร่ในสื่อ
- การให้สัมภาษณ์กับสื่อ: การให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นเทคนิคที่มักจะใช้ในการสร้างความรู้สึกและความไว้วางใจต่อองค์กร โดยการให้สัมภาษณ์ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมหรือสินค้าขององค์กร และสื่อต่างๆ จะรายงานข้อมูลนั้นในสื่อ
- การเป็นสปอนเซอร์ให้กับกิจกรรมต่างๆ: การเป็นสปอนเซอร์ให้กับกิจกรรมต่างๆ เป็นเทคนิคที่ใช้ในการสร้างความรู้สึกและความน่าสนใจต่อสินค้าหรือบริการขององค์กร โดยการสนับสนุนกิจกรรมหรืองานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมหรือสินค้าขององค์กร และประชาสัมพันธ์ในสื่อ
สรุป
การทำPR อาศัยศาสตร์และศิลป์ ของการประสานงาน ทั้งการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสื่อต่าง ๆ หรือการวางแผนการดำเนินการด้านการสื่อสาร หรือรวมทั้งการกำหนดเป้าหมายของการประชาสัมพันธ์แต่ละครั้ง ผู้ประกอบการสามารถเข้ามาปรึกษากับ Normthing เพื่อวางแผนและดำเนินการประชาสัมพันธ์กับแบรนด์ของท่านได้ เพราะเราเป็นที่ปรึกษาการตลาด จัดอีเว้นท์ และที่ปรึกษากฎหมายธุรกิจ
แหล่งข้อมูล:
- สมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย
- สถาบันการสร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียงประเทศไทย
- PR Newswire: https://www.prnewswire.com/
Additional Resources in Thai: